เทศกาลกินเจนั้น มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีน โดยเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนทุกๆ ปี รวม 9 วัน 9 คืน
ประโยชน์ด้านจิตใจ : ถือว่าได้หยุดทำบาป หยุดบริโภคเนื้อสัตว์
ประโยชน์ด้านสุขภาพ : ส่งผลให้ระบบย่อยได้พักจากการย่อยอาหารประเภทย่อยยาก
อาหารเจ เมื่อกินติดต่อกันช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะทำให้ร่างกายปรับตัวอยู่ในภาวะสมดุล สารอาหารในผักและผลไม้จะช่วยให้ระบบขับถ่ายและการย่อยเป็นปกติ สามารถขับของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ทำให้ไม่มีสารพิษตกค้างอยู่ภายใน รวมทั้งปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันอาหารเจมีให้เลือกหลากหลาย ให้สารอาหารครบ 5 หมู่ได้ อาทิ โปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกายก็มีอยู่มากในพืชผักและผลไม้ รวมทั้งมีเนื้อสัตว์เทียม ทำจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร มีทั้งชนิดโปรตีนเกษตร และหมี่กึง ที่ใช้เป็นวัตถุดิบประกอบอาหาร และเป็นแหล่งโปรตีนแทนเนื้อสัตว์ได้
เพื่อเป็นการกินเจให้ถูกหลักโภชนาการ ควรเลือกอาหารที่ปรุงด้วยวิธีการต้ม นึ่ง ย่าง อบ หรือยำ หลีกเลี่ยงอาหารผัด ทอด เพื่อลดการสะสมของไขมัน ไม่ให้ส่งผลเสียต่อร่างกายในภายหลัง
สำหรับผู้ที่ต้องการกินเจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามประเพณีการกินเจนั้น ก็มีหลักปฏิบัติ ดังนี้
1.งดเว้นเนื้อสัตว์หรือทำอันตรายต่อสัตว์
2.งดนม เนย และน้ำมันที่มาจากสัตว์
3.งดอาหารรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปรี้ยวมาก เค็มมาก
4.งดผักหรือเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง เช่น ผักชี กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย รวมทั้งใบยาสูบ สิ่งเสพติดและของมึนเมาต่างๆ
5.รักษาศีลห้า
6.รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ และรวมไปถึงการรักษาอารมณ์ด้วย
7.ทำบุญทำทาน
8.นุ่งขาวห่มขาว
กินเพื่อสุขภาพ กินด้วยจิตเมตตา กินเพื่อเว้นกรรม ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมทั้งกาย วาจา ใจไปพร้อมๆ กัน ครบถ้วนความหมาย ถือศีลกินเจ.
Source : www.dailynews.co.th
อาหารไทย | สูตรอาหารไทย | วิธีทำอาหารไทย | สูตรขนมไทย | สูตรขนมหวานไทย | ขนมหวาน | ขนมหวานไทย | เคล็ดลับคู่ครัว
© 2007 EzyThaiCooking.com All rights reserved .